Thursday, January 20, 2011

เที่ยวปีใหม่ กับ ชัยทัวร์

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ ชัยทัวร์ ของ อาจารย์ชัยธวัชว์ ไทยง มาแล้ว  ดิฉันเองก็เคยได้ยินมานาน  แต่ไม่เคยได้ใช้บริการของทัวร์นี้เลย  มีบางคนขนานนามว่าเป็นทัวร์คนแก่ 

แหม  เสียหาย

แต่พอได้ไปเอง  ก็ต้องบอกว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ค่ะ  เพราะอายุเฉลี่ยของลูกทัวร์  น่าจะประมาณ 70 ปีนะคะ  บางครั้งต้องนั่ง wheelchair กันก็มี

ความจริงก็ไม่ใช่จะเป็นผู้สูงอายุเสียทั้งหมดหรอกค่ะ  ยกตัวอย่างเช่นดิฉันเองเป็นต้น  ก็คิดว่าตัวเองเป็น สว. ซะที่ไหนล่ะ  แม้อายุจะขึ้นเลข 5 กับเค้าแล้วก็ตาม  แถมตัวหารเฉลี่ยในทริปนี้  อายุน้อยที่สุดคือ 3 ขวบครึ่งค่ะ  และที่เป็นลูกหลานระดับมหาวิทยาลัยก็มีพอเป็นสีสัน

เป็นทัวร์สบาย ๆ แบบ 5 วัน 4 คืนค่ะ  โดยเราพักกันที่โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่ 2 คืน  โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท เชียงราย 2 คืน  ราคารวมอาหารเช้า กลางวัน เย็น แถมเครื่องดื่ม และของว่างในรถระหว่างการเดินทาง  กับผ้าเย็นยี่ห้อชัยทัวร์ทุกครั้งที่กลับมาขึ้นรถ  ทั้งหมด 12,554 บาทค่ะ

ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา  จะเห็นว่าดิฉันได้เที่ยวโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน และโดยมีผู้อุปถัมภ์หลายครั้ง  ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ  คุณแม่อยากไปดูเทศกาลดอกไม้ที่เชียงราย  และติดใจการไปเที่ยวกับชัยทัวร์  พอเห็นโปรแกรมที่เค้าส่งมาที่บ้านปุ๊บ  ก็รีบจองไปปั๊บ  ซึ่งน่าจะเป็นรายแรก ๆ ด้วยซ้ำ 

ปรากฎว่าเมื่อได้รับการยืนยันก่อนวันเดินทาง  เราจึงทราบว่าทริปนี้จะไปกันถึง 7 คันรถบัส  จุลูกทัวร์คันละ 30 - 33 คน  เจ้าหน้าที่อีก 30 คน  รวมแล้วเป็นคณะใหญ่ถึงเกือบ 250 คน

โอ้ พระเจ้า   ไม่เคยไปเที่ยวเป็นคณะใหญ่ยักษ์แบบนี้มาก่อน  นึกภาพไม่ออกว่ามันจะวุ่นวายขนาดไหน

แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ  ซึ่งดำเนินการมาจะครบ 27 ปีในปีนี้แล้ว  ทุกอย่างก็จัดว่าผ่านสำหรับดิฉันค่ะ

เริ่มตั้งแต่การออกเดินทางจากจุดนัดพบที่ถนนอังรีดูนังต์  เค้าให้ไปถึง 6 โมงเช้า  โดยกำหนดรถออกที่ 6:30 น.  แต่เค้าไม่ออกพร้อมกันค่ะ  คันไหนครบก่อน ออกก่อน  ไม่ต้องรอออกเป็นขบวนให้ดูอลังการแต่อย่างใด  จะได้ไม่ต้องไปแย่งกันใช้ห้องน้ำตามจุดจอดต่าง ๆ  ซึ่งก็ไม่ได้มีแต่เฉพาะทัวร์เรา  ปรกติดิฉันไม่ค่อยเที่ยวช่วงเทศกาล  จึงตื่นตาตื่นใจไปกับปั๊ม ปตท. และเผื่อไปถึงบางปั๊มอื่นด้วย  ที่มีรถจอดหนาแน่น  ผู้คนยืนแถวยาวรอเข้าห้องน้ำ  โดยเฉพาะห้องน้ำหญิง (ดูภาพประกอบค่ะ)   ซึ่งบางครั้งผู้สูงอายุบางคนก็จะถือวิสาสะไปใช้ห้องน้ำชายบ้าง


แต่ที่่ชอบใจมากคือ  เดี๋ยวนี้นอกจากคนไทยเราจะตระหนักถึงการเข้าคิวแล้ว  ยังใช้วิธีการจัดเป็นแถวเดียวทางด้านนอก  ไม่ไปยืนหน้าประตูแต่ละห้องอย่างแต่ก่อน  ซึ่งดูเป็นระเบียบ และเรียงตามลำดับดีด้วย  เพราะการยืนหน้าแต่ละประตูอย่างเมื่อก่อนนั้น  นอกจากจะทำให้ที่แคบ ๆ หน้าห้องน้ำดูแน่นแล้ว  อากาศภายในก็ไม่ถ่ายเทเท่าข้างนอก  แถมคนมาก่อนอาจโชคร้ายไปยืนหน้าห้องที่เข้านาน  คนมาทีหลังอาจได้เข้าห้องที่ไม่ต้องคอยนานก็ได้

เราออกเดินทางกันวันพฤหัสที่ 30 ธันวาคม 2553  ที่ชอบอีกอย่างของทัวร์นี้ก็คือ  เค้าไม่เดินทางตอนกลางคืน  เพราะเคยเดินทางประเภทออกจากกรุงเทพกลางคืน แล้วไปถึงเชียงใหม่ตอนเช้า  ไม่ว่าจะนั่งรถทัวร์ หรือรถไฟก็ตาม  มันจะสบายได้ยังไงคะกับการหลับ ๆ ตื่น ๆ อย่างนั้น


นั่งรถตอนกลางวัน  ก็ได้ดูวิวทิวทัศน์ไปด้วย  ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่เรายังอยู่ในเขตกรุงเทพ  แวะทานอาหารกลางวันที่โรงแรมเวียงตากริเวอร์ไซด์  แล้วตรงเข้าจังหวัดลำปาง  ไปสักการะ พระธาตุลำปางหลวง  ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีฉลูค่ะ

















สำหรับสถานที่อื่น ๆ ซึ่งเราไปเที่ยวครั้งนี้คือ

 เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
อาหารค่ำท่ามกลางความหนาวที่ไนท์ซาฟารี  แล้วต่อด้วยการนั่งรถชมสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่นั่น
  

          วัดพันเตา ที่จังหวัดเชียงใหม่ คนทางเหนือออกเสียงว่าปันเต้า หรือมีความหมายว่า พันเท่า ก็ได้ 
ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นวิหารที่มีหน้าแหนบเป็นไม้แกะสลักที่สวยงามที่สุดในล้านนา




















วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร  จังหวัดเชียงใหม่

 
นาคที่วิหารหลวงของวัดนี้
เป็นฝีมือที่มีมาแต่ดั้งเดิม  และได้ชื่อว่า
เป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนือ
ยอดเจดีย์นี้หักเนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวตั้งแต่สมัยพระนางจิระประภา  ทำให้ความสูงจากเดิม 80 เมตร เหลือเพียง 40.8 เมตร
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ จังหวัดเชียงใหม่   ซึ่งเราได้มีโอกาสเข้าพิธีทางฮินดูที่นั่นด้วย



บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ  จังหวัดเชียงราย


วัดร่องขุ่น  จังหวัดเชียงราย

การจราจรอันคับคั่ง หน้าวัดร่องขุ่น



แม้แต่ห้องน้ำก็ยังมีลวดลายวิจิตรตระการตา

  
 แต่สำหรับไฮไลท์ของทริปนี้คือ การไปชมดอกไม้เมืองหนาว ในงาน "เทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม"  เพราะทางชัยทัวร์ได้พาเราไปชมงานถึง 2 ครั้ง 2 บรรยากาศ  คือในช่วงบ่าย และในช่วงเช้า  ซึ่งจะได้สัมผัสอากาศ และแสงอาทิตย์ที่แตกต่างกันไป    สำหรับตัวดิฉันเองจะชอบช่วงเช้ามากกว่า  เพราะอากาศสดชื่น  และเค้าจะฉีดน้ำรดดอกไม้ด้วย  ทำให้มีละอองน้ำที่กลีบดอก  ดูสวยดีค่ะ




    


ที่พิเศษเฉพาะชัยทัวร์ ในการไปชมงานดอกไม้นี้คือ  เรามีรถตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนไปจอดในที่ VIP ทีเดียว  ทำให้คณะ สว. ของเราไม่ต้องเดินไกล  เพราะจำนวนผู้เข้าชมงานเยอะมาก  ทั้งในส่วนของสวนดอกไม้ริมแม่น้ำกก  และในส่วนของบริเวณที่ขายสินค้า OTOP และขายต้นไม้   รถจึงติดมาก  และส่วนใหญ่ต้องไปจอดรถฝั่งตรงข้าม แล้วเดินข้ามถนนมา


รถบัสทั้ง 7 คันของคณะเรา

นอกจากนั้น เรายังมีโอกาสได้ไปต่างประเทศกันด้วยค่ะ  อาจารย์ชัยธวัชว์ อุตส่าห์จัดรถมาเปลี่ยนให้พวกเราข้ามจากอำเภอแม่สาย ไปฝั่งพม่า  โดยไม่ต้องลงจากรถกันเลย   แล้วพาเราไปชมเจดีย์ชเวดากอง (จำลอง) ก่อนแวะชอปปิ้งกันที่ Duty Free ด้วย






แต่สำหรับผู้ที่มิได้รับความสะดวกอย่างพวกเรา  แล้วต้องเดินข้ามไป ข้ามกลับอย่างนี้แล้ว 
ดิฉันว่าฝั่งชายแดนไทยเราคึกคักน่าเดินกว่าเยอะเลยค่ะ




มีสิ่งที่ประทับใจกับความสามารถของทีมงานคือ  แต่ละคันรถในทริปนี้  เค้าจะจัดให้มีหัวหน้า 1 คน 
กับผู้ช่วยอีก 2 คน เพื่อคอยดูแลเสิร์ฟน้ำ และของว่างให้พวกเรา   แล้วแต่ละวันจะมีทีมงานที่เค้าเรียกว่าตัววิ่ง  ผลัดเปลี่ยนมาอยู่ที่รถเราวันละคน 2 คน  เพื่อพูดคุย หรือให้ความรู้เรื่องของสถานที่ที่เราจะไป  ตามความสามารถของแต่ละคน   แต่พอตกกลางคืน  คนเหล่านี้จะแปลงกายไป entertain บนเวทีได้อย่างน่าทึ่ง  (ดูจากรูปเอาเองแล้วกันนะคะ) 

ปีนี้จึงได้ฉลอง Count Down ที่เชียงใหม่ค่ะ  จากห้องพักชั้น 11 ทำให้ได้เห็นว่า
ที่เชียงใหม่มีการจุดพลุ และปล่อยโคมลอย กันอย่างมากมายค่ะ


ดิฉันเองก็ได้ปล่อยโคมลอยร่วมกับคุณแม่เหมือนกันค่ะ
ขอให้ทุกข์โศกโรคภัยต่าง ๆ ในปีก่อน ลอยหายไปกับโคมที่ปล่อยไป
ส่วนในปีนี้ ขอให้มีแต่สิ่งดี ๆ (และ คนดี ๆ) เข้ามาในชีวิตนะคะ  เพี้ยง!!!


                สวัสดีปีใหม่  Happy New Year ทุก ๆ ท่านนะคะ



2 comments:

  1. ดอกไม้สวยมากจ้า ท่าทางน่าสนุก

    ReplyDelete
  2. Thanks ที่เข้ามาอ่านนะจ๊ะ

    ReplyDelete