คนที่เคยไปอังกฤษมาแล้ว จะแนะนำให้ใช้ตั๋วและบัตรต่าง ๆ หลายอย่างค่ะ แต่สำหรับเราแล้ว เราพกไปแค่ 2 อย่างนี้ค่ะ
สรุปว่าดิฉันเลือกซื้อแบบที่นั่งชั้นธรรมดา ใช้วันไหนก็ได้ 4 วัน ภายในเวลา 2 เดือน แต่เฉพาะใน England เท่านั้น เรียกว่า Britrail Flexipass ราคา 255 U.S.Dollars ค่าเงินตอนนั้นดอลลาร์ละ 31 บาท ทางบริษัทคิดค่าดำเนินการอีก 500 บาท แต่ก็ต้องลองเปรียบเทียบดูนะคะ บางแห่งคิด 800 บาทก็มี แถมราคา และอัตราแลกเงินก็แพงกว่า เช็คดูหลาย ๆ ที่ก็ดีค่ะ และราคาที่คุณอาจจะอ่านมาจากหนังสือท่องเที่ยวเล่มต่าง ๆ ก็อาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่พิมพ์หนังสือเล่มนั้นด้วยนะคะ
แต่พอไปใช้ที่นั่นจริง ๆ แล้ว ถึงได้รู้ว่า ตั๋วนี้ถ้าใช้แค่จากที่หนึ่ง ไปอีกที่หนึ่งมักไม่คุ้มค่า แต่ถ้าในวันหนึ่งเราไปหลายที่ หรือต้องต่อรถหลายขบวน แบบนี้ค่อยคุ้มหน่อย
เพราะความจริงถ้าเราซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้หลาย ๆ วัน ราคาจะถูกกว่าใช้ Britrail อีกค่ะ แต่คุณจะต้องกำหนดสถานีที่จะออกเดินทาง สถานีที่จะไปถึง และวันเวลาที่แน่นอนได้นะคะ ยกตัวอย่างเช่น ดิฉันจะออกเดินทางจากบ้านน้องสาวที่สถานี Stockport เพื่อไปเมือง Carlisle ซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าไว้ 4 – 5 วันจากสถานีในลอนดอน ได้ราคา 21 ปอนด์เท่านั้น ในขณะที่ตั๋ว Britrail เฉลี่ยแล้วตกวันละ 43 ปอนด์ (ตามอัตราแลกเงินขณะที่ดิฉันซื้อนะคะ) ประหยัดไปเป็นเท่าตัวเลยค่ะ
แต่ในดีมีเสีย ในเสียก็มีดี นะคะ การใช้ตั๋ว Britrail นั้น ครั้งแรกเราจะต้องไป Validate ก่อนกับเจ้าหน้าที่ที่สถานีแรกที่เราจะใช้ เค้าจะประทับตรา และลงวันที่ในช่องที่ 1 แต่สำหรับการใช้ครั้งต่อไป เราก็แค่ยื่นตั๋วนี้ให้เค้าตรวจขณะที่อยู่ในรถไฟค่ะ
ดิฉันไม่แน่ใจว่าเราควรจะต้องลงวันที่ที่เราจะใช้เอง หรือเค้าจะเป็นคนลงให้ แต่จากการใช้ตั๋วครั้งที่ 2 ปรากฎว่าเราทั้งคู่ต่างก็ยื่นตั๋วให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เค้ามองดู แล้วก็ส่งคืนพร้อมคำขอบคุณโดยไม่ได้ลงวันที่ในช่องที่ 2 เมื่อเจ้าหน้าที่เดินผ่านไปตรวจคนอื่นต่อ เราหันมามองหน้ากัน แล้วคิดเหมือนกันว่า
“ เที่ยวนี้ขึ้นฟรี ”
เดือดร้อนดิฉันละสิ เพราะดิฉันวางโปรแกรมไว้แล้วว่าในช่วง 14 วันที่เราอยู่ในอังกฤษ เราจะใช้ตั๋ว Britrail วันไหน ใช้การซื้อเป็นเที่ยว ๆ ในวันไหน เลยต้องหาทางใช้เพิ่มอีก 1 วันที่ได้เกินมาโดยไม่คาดคิดค่ะ
ส่วน Oyster Card เป็นบัตรที่เอาไว้ใช้ขึ้นรถเมล์ และรถไฟใต้ดิน (Undergroud หรือ Tube) ในลอนดอนค่ะ พอดีได้รับอนุเคราะห์มาจากเพื่อนที่ไปเมื่อปีก่อน เลยตัดปัญหาการไปซื้อใหม่ที่โน่นได้ แค่ไปเติมเงินก็ใช้ได้แล้ว (ตอนเอากลับมาคืนก็ไม่ลืมที่จะเติมเงินไว้ให้เค้าด้วยค่ะ คนที่ใช้ต่อปีหน้าจะได้มีทุนอยู่บ้าง) ก่อนไปดิฉันก็จะงงกับบัตรใบนี้มาก คนโน้นคนนี้ช่วยอธิบายก็ยังนึกภาพไม่ค่อยออก จนต้องไปเรียนรู้เอาจากประสบการณ์จริงค่ะ ซึ่งสะดวกมาก ไม่ต้องคอยหาเหรียญมาหยอดซื้อตามตู้ แถมจะแพงกว่าเอาด้วยสิ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เนื่องจากเพื่อนของดิฉันมีเงินติดอยู่ในบัตรน้อยกว่าดิฉันราว 2 ปอนด์ พอเราขึ้นรถเมล์ บัตรของดิฉันผ่านแล้ว แต่บัตรของเพื่อนจะมีไฟสีแดงขึ้น ไม่มีเสียงสัญญาณว่าผ่าน ลองเอาบัตรแตะดูอีกครั้งหนึ่ง ก็ยังเป็นเหมือนเดิม เลยนึกขึ้นได้ว่าเงินในบัตรคงไม่พอ คนขับบอกให้ลงไปหยอดซื้อตั๋วที่ตู้ตรงป้ายรถเมล์ ดิฉันบอกว่า “แต่บัตรของฉันตัดเงินไปแล้วนี่” คนขับบอกว่า “จะรอ เร็ว ๆ แล้วกัน” แต่ดิฉันต้องลงไปช่วยคุณแอ๋วอ่านวิธีการซื้อตั๋ว ตอนนั้นเป็นช่วงเช้าที่รถก็ติดมาก เกรงใจคนอื่นเค้าจัง รถเมล์คันหลังก็ต้องเบนออกไป เลยบอกคนรถว่า “งั้น you ไปเถอะ”
ยืนอ่านวิธีการซื้อตั๋วจากเครื่องกันอยู่อีกพักหนึ่ง จนมีผู้ใจดีมาช่วยบอกให้หยอดเงินไป 2 ปอนด์ คิดในใจว่าแพงจัง พอเราได้ตั๋วออกมา เค้าช่วยอธิบายต่อว่าตั๋วใบนี้จะใช้ขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ภายใน 4 หรือ 5 ชั่วโมงนี่แหละค่ะ แต่วันนั้นเราขึ้นแค่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเท่านั้น แล้วเดินเที่ยว ก็เลยจัดว่าแพงนะคะสำหรับค่ารถเมล์เที่ยวละ 100 บาท
เดี๋ยวตอนหน้าเราเริ่มออกเดินทางกันซะทีนะคะ
เดือดร้อนใจที่ได้(ต้อง)นั่งรถไฟเที่ยวฟรีอีก 1 วัน ?? ถือว่าเป็นทุกขลาภก็แล้วกันนะครับพี่
ReplyDeleteoyster ซื้อมาแล้ว(ตอนไปยื่นวีซ่าค่ะ)แต่ britrail กำลังจะซื้อแต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อแบบ 8 หรือ 4 วันดีค่ะ
ReplyDeleteL0ndon-Glasgow
Glasgow-Inverness
Inverness-Edinburgh
Edinburgh-London
**ไป Bath
**ไป Windsor
**ไป Hampton Court
ไม่ทราบว่า ** 3 ที่หลังนี้ใช้ Oyster ได้หรือไม่คะ
Oyster ใช้ได้แต่ Londonครับ
ReplyDelete